การทำให้ SaaS Solution ของเรานั้นสามารถที่จะ Scale ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น อาจจะทำการ Refactor Infrastructure/Application ของเรา เพื่อให้สามารถรองรับการ Scale ได้ การทำ Refactor คือการแก้ไข Code หรือ Configuration นั่นเอง

โดยทั่วไปแล้วหากการพัฒนาต้นแบบ Solution ของเราเป็นการสร้างจากเครื่องคอมพิวเตอร์ Notebook หรือ Co-location ส่วนใหญ่แล้วเราจะสร้างโดยให้ทุกอย่างอยู่ที่เครื่องเดียวทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น Application Server และ Database Server ซึ่งใน Practice ที่ดีเราควรจะแยกในส่วนต่างๆ ดังนี้ โดยแต่ละส่วนควรจะแยกออกจากกัน (Loosely Couple)

ส่วนประกอบของ Web Application Solution

การแยกส่วนประกอบออกจากกัน ควรแยกดังนี้

1. Code คือส่วนที่ไว้ใช้สำหรับการเก็บโปรแกรมของเรา ส่วนใหญ่ Code จะอยู่ในส่วนที่เป็น Web/App Server
2. Session คือส่วนที่ไว้ใช้การเก็บข้อมูลชั่วคราวหรือการใช้งานบนระบบของเรา
3. File คือส่วนที่เก็บพวกรูปภาพ ไฟล์ หรือ PDF ที่ได้มีการสร้างขึ้นมาไว้ให้กับผู้ใช้งาน
4. Transaction คือส่วนที่เก็บ Transaction Data หรือข้อมูล Master Data ต่างๆ

Component

เมื่อเราย้ายขึ้นไปบน AWS เราสามารถใช้ Managed Service เพื่อให้ตอบโจทย์ในการให้บริการของ SaaS เราได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่ม SLA ให้กับระบบของเรา

1. Code สามารถใช้ Amazon ElasticBeanstalk (PHP, Go, .NET, Java, Node.JS, Python)
2. Session สามารถใช้ Amazon ElastiCache (Redis, Memcache)
3. File สามารถใช้ Amazon S3
4. Transaction สามารถใช้ Amazon RDS (MySQL, PostgreSQL, MS SQL)

เดลิเทค สามารถที่ช่วยให้คุณสามารถเริ่มต้น SaaS Solution จากประสบการณ์การทำงานสามารถติดต่อได้ที่ Contact Page